Bitcoin ทะลุ $40,000: ก้าวสำคัญและก้าวอื่นๆ ที่จะตามมา
Bitcoin ซึ่งเป็นคริปโทเคอร์เรนซีอันดับ 1 ทั้งในแง่ของมูลค่าตามราคาตลาดและชื่อเสียง ได้รับความสนใจจากทั่วโลกอีกครั้งด้วยการพุ่งทะลุด่าน $40,000 ไปได้ นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ที่ BTC มาอยู่เหนือระดับ $40,000 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ อีกทั้งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถในการฟื้นตัวและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นในโลกการเงิน นับตั้งแต่ที่ Bitcoin ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ก็ประสบกับการขึ้นลงรุนแรงเหมือนรถไฟเหาะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทั้งความเป็นไปได้และความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัล มูลค่าที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้จนผ่านระดับ $40,000 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งในเส้นทางของ Bitcoin จนทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการเพิ่มขึ้นนี้ รวมถึงอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
กราฟ BTC/USDT ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022
เบื้องหลังการพุ่งขึ้น
แม้ว่าจะไม่มีสาเหตุโดยตรงที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นครั้งประวัติศาสตร์นี้ แต่ก็มีโมเมนตัมที่ก่อตัวขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาและอาจจะในช่วงตลอดทั้งปี 2023 เลยทีเดียว โดย 2 ตัวการที่ทำให้เกิดสภาวะ Bearish ในปี 2022 คือ Do Kwon และ Sam Bankman-Fried ต่างก็ถูกจับกุมและส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเพิ่งจะมีการตัดสินโดยคณะลูกขุนว่า Bankman-Fried มีความผิดไปเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง
นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่จะมีการเทรด Spot BTC ETF เป็นครั้งแรกเองก็มีส่วนทำให้เกิดการพุ่งสูงขึ้นนี้เช่นกัน ทำให้มูลค่าของ BTC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่มีข่าวลือเกี่ยวกับการอนุมัติ Spot BTC ETF จาก SEC แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันที่แน่นอน แต่กระแสก็ได้ก่อตัวเพิ่มมากขึ้นแล้ว Galaxy Digital ถึงขนาดเผยแพร่ว่าขนาดตลาดของ Spot BTC ETF จะมีมูลค่าประมาณ 14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หนึ่งปีหลังจากการเปิดตัว
สิ่งที่มาพร้อมกับความเป็นไปได้ที่จะมีการอนุมัติของ SEC ก็คือความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ตลาดได้ตีความความคิดเห็นล่าสุดของ Jerome Powell ประธาน FED ว่ามีท่าที Hawkish น้อยลง โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างภาวะการเงินที่ตึงตัวและการส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงนั้นเป็นผลดีต่อ Bitcoin เนื่องจากในอดีต นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมีความสัมพันธ์กับการเทรดเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นและราคาคริปโทเคอร์เรนซีที่เพิ่มสูงขึ้น
ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นไปได้อีกประการหนึ่งซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วหลายครั้งโดยตลาด ก็คืออีเวนต์ Halving ของ BTC ที่กำหนดไว้ในปี 2024 โดย Halving เป็นกลไกที่เพิ่มความยากในการขุดของ BTC ด้วยการลดรางวัลของนักขุดลงครึ่งหนึ่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Halving ของ BTC ในปี 2024 ที่ทุกคนรอคอย โปรดดูคำตอบ 10 คำถามยอดนิยมของเรา ในอดีตนั้น อีเวนต์ Halving ที่ชะลออัตราการมี Bitcoin ใหม่เข้ามาหมุนเวียนในระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเมื่อใกล้ถึง Halving ครั้งต่อไป นักลงทุนอาจซื้อ Bitcoin มาโดยคาดหวังว่าจะมีการเคลื่อนไหวของราคาในลักษณะที่ใกล้เคียงกันนี้ก็ได้
จะมีอะไรเกิดขึ้นอีก
เมื่อมองไปข้างหน้า ทิศทางของ Bitcoin ก็ยังคงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและมีลักษณะเป็นการเก็งกำไรอย่างมาก
แม้ว่านักลงทุนจำนวนมากอาจขาย BTC ที่ตนถืออยู่ไปเมื่อมีการเปิดตัว BTC ETF แต่ก็ยังมีคนที่มองว่านี้เป็นการให้การยอมรับ BTC จากเซกเตอร์การเงินแบบดั้งเดิมและจากประชาชนทั่วไป และเงินทุนอาจไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต ทำให้ราคา BTC มีความมั่นคงและเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นักลงทุนก็จะมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่าง BTC และคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ
อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงอีเวนต์ Halving แล้ว เนื่องจากอีเวนต์ Halving ที่ผ่านมาล้วนเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของ Bull Run ซึ่งกินเวลาต่อเนื่องหลายเดือน เราอาจยังคงเห็นนักลงทุนและนักเก็งกำไรเดิมพันในอีเวนต์ที่กำลังจะมาถึงนี้มากขึ้น ทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่ BTC มากขึ้นเรื่อยๆ
สรุปปิดท้าย
การทะลุขึ้นไปอยู่เหนือ $40,000 ของ BTC สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของปัจจัยต่างๆ ทางเศรษฐกิจและการเก็งกำไรในตลาด ถึงอนาคตจะไม่แน่นอน แต่การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรากฐานเหล่านี้ก็จะให้ข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าแก่นักลงทุน แม้ว่าคริปโทเคอร์เรนซีจะขึ้นชื่อในเรื่องความผันผวนและความเสี่ยงสูง แต่เรายังโชคดีที่ได้เห็นเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ในประวัติศาสตร์ของ BTC ซึ่งเป็นบล็อกเชนแรก และอาจเป็นสิ่งที่พลิกโฉมตลาดการเงิน และเป็นสกุลเงินที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง
ข้อสงวนสิทธิ์: ความคิดเห็นที่อยู่ในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น บทความนี้ไม่ใช่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใดๆ ที่ได้มีการเอ่ยถึง รวมถึงไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน การเงิน หรือการเทรดแต่อย่างใด ผู้ใช้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองก่อนตัดสินใจลงทุน