Bitcoin (BTC) พุ่งหลังนักลงทุนมองเชิงบวกต่อ Bitcoin ETF และการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

สรุปใจความสำคัญ

- ราคา Bitcoin ขึ้นแรงและฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา

- สาเหตุหลักๆ คือ:
(1) ความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF

(2) เม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นในกองทุนสินทรัพย์ Bitcoin

(3) Bitcoin เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset)

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin ฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่ง โดยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 คริปโทเคอร์เรนซีสกุลนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปรับตัวขึ้นไปมากกว่า 11% ภายใน 24 ชั่วโมง และกว่า 30% ในเวลาเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ตุลาคม ราคาของ Bitcoin ขึ้นไปยืนเหนือ US$34,000 ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแล้วมากกว่า 90% นับตั้งแต่นั้นมา Bitcoin ก็แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวในระดับที่น่าทึ่ง โดยรักษาระดับราคาดังกล่าวไว้ได้ชนิดที่ไม่ลดลงต่ำกว่าระดับ US$33,000 เลย อีกทั้งยังพุ่งขึ้นไปถึงกว่า US$35,000 ด้วย เหตุผลเบื้องหลังการกลับมาครั้งนี้อาจมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการที่บรรดานักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อการอนุมัติและการเปิดตัวกองทุน ETF (Exchange-Traded Fund) ของ Bitcoin

ที่มา: Bitget.com

มุมมองเชิงบวกต่อ Bitcoin Spot ETF

Bitcoin ETF เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีสถานะการลงทุน (Exposure) ในการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ได้โดยไม่ต้องถือครองคริปโทเคอร์เรนซีโดยตรง การอนุมัติผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยหน่วยงานกำกับดูแลจะเปิดประตูให้นักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยจำนวนมากเข้าสู่ตลาดคริปโต

หนึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดที่ส่งผลดีให้ Bitcoin ETF ได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากคือการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ตัดสินใจไม่อุทธรณ์คำตัดสินในคดีฟ้องร้องของ Grayscale ต่อ SEC เหตุการณ์นี้ได้จุดประกายความหวังให้กับนักลงทุนว่า Bitcoin ETF อาจได้รับไฟเขียวจาก SEC ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การตัดสินใจที่จะไม่อุทธรณ์ดังกล่าวสะท้อนว่าหน่วยงานกำกับดูแลอาจเปลี่ยนแปลงจุดยืนที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งส่งผลในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

นอกเหนือจากการตัดสินใจของ SEC แล้ว อุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซียังได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการปรับปรุงเอกสารประกอบการยื่นขอจดโดยบรรดาบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้ง Bitcoin ETF กองต่างๆ การปรับปรุงเหล่านี้บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นขององค์กรเหล่านี้ในการรับมือกับภูมิทัศน์ด้านการกำกับดูแลอย่างแข็งขัน รวมถึงเป็นการสร้างหลักประกันว่าจะมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่จำเป็น ซึ่งเพิ่มความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้จะได้รับการอนุมัติในที่สุด

กระแสเงินทุนไหลเข้า Bitcoin พุ่งขึ้น

แรงผลักดันจากมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นต่อความเป็นไปได้ในการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF ทำให้ผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ ในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมไปถึง Bitcoin Futures ETF มีกระแสเงินทุนไหลเข้ารายสัปดาห์ในระดับที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 กองทุนเหล่านี้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ได้ราว 326 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความมั่นใจถึงการอนุมัติ Bitcoin ETF ที่ใกล้จะเกิดขึ้นนี้ได้ทำให้ Bitcoin มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและกระตุ้นให้มีความต้องการคริปโทเคอร์เรนซีทางเลือก หรือที่มักเรียกกันว่า “Altcoin” มากขึ้น

ในบรรดา Altcoin ต่างๆ นี้ Solana ได้รับผลพลอยได้อย่างโดดเด่นจากการไหลเข้าของเงินทุน โดยผลิตภัณฑ์ของ Solana มีเม็ดเงินไหลเข้าในระดับที่น่าทึ่งถึง 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในทางกลับกัน Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin เผชิญกับการไหลออกของเม็ดเงินถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนว่านักลงทุนได้ปรับเปลี่ยนการโฟกัสไป

กระแสไหลเข้าส่วนใหญ่มาจากประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ โดยสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 12% ของทั้งหมด ข้อมูลยังบ่งชี้อีกว่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทั้งหมดในผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ ในสินทรัพย์ดิจิทัลมีมูลค่าแตะ 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022

ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นคือ Short Squeeze การเกิด Short Liquidation (การบังคับขาย Short) ราว 167 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วมาจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ได้ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งกระฉูดขึ้นอย่างกะทันหันแบบไม่มีใครคาดคิด เกิดเป็นแท่งเทียนที่มักเรียกกันว่า “แท่งเทียนเทพเจ้า” (God Candle) หรือแท่งเขียวยาว 8 เมตร ผู้ที่ถือสถานะ Short Position ในช่วง US$33,000 ขึ้นไปจึงขาดทุนอย่างรุนแรงไปตามๆ กันเนื่องจากราคาปรับตัวในชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่ผิดนักที่จะเรียกว่า Short Squeeze ครั้งนี้ได้เพิ่มพลังขับเคลื่อนให้กับวิถีขาขึ้นของ Bitcoin

Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset)

การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin เมื่อเร็วๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมกำลังประสบกับความวุ่นวาย ในขณะที่ตลาดหุ้นในวงกว้างกำลังตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก Bitcoin กลับเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของ Bitcoin กับดัชนีหุ้น SP 500 และ NASDAQ ที่ลดลง ในขณะที่ความเชื่อมโยงกับราคาทองคำแข็งแกร่งขึ้น

ในช่วงเวลาที่เกิดความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่มั่นคงทางการเงิน นักลงทุนต่างแสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อปกป้องเงินทุนของตน ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ปัจจุบัน Bitcoin เริ่มก้าวขึ้นมามีบทบาทในลักษณะเดียวกัน ข้อมูลตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมาบ่งชี้ว่า Bitcoin ตอบสนองในเชิงบวกต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น

ราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนกำลังพิจารณา Bitcoin ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น

มองสู่อนาคต

ราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นล่าสุดนี้ตอกย้ำถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นและความกระตือรือร้นที่มีมากขึ้นต่อสินทรัพย์และตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในวงกว้าง นักลงทุนต่างตั้งตารอการตัดสินใจของ SEC เกี่ยวกับ Bitcoin ETF ซึ่งมีศักยภาพที่จะพลิกโฉมภูมิทัศน์สินทรัพย์ดิจิทัลยิ่งขึ้น รวมถึงจะดึงดูดความสนใจจากทั้งกลุ่มสถาบันและรายย่อยได้มากขึ้นด้วย แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าอาจยังคงมีความท้าทาย แต่นี่ก็เป็นสัญญาณที่มีแนวโน้มสดใสของการเติบโตและพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

ข้อสงวนสิทธิ์: ความคิดเห็นที่อยู่ในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น บทความนี้ไม่ใช่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใดๆ ที่ได้มีการเอ่ยถึง รวมถึงไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน การเงิน หรือการเทรด ขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองก่อนทำการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน